ความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน เกี่ยวกับกีฬารถแข่งในสนามแข่งกับถนนจริง

กีฬารถแข่งจัดเป็นกีฬาผาดโผนชนิดหนึ่ง สิ่งสำคัญที่กีฬาผาดโผนแตกต่างจากกีฬาประเภทอื่นก็คือ เป็นกีฬาที่ไม่สามารถเล่นได้ทั่วไป ต้องเล่นในสถานที่ที่จัดไว้เป็นการเฉพาะ เนื่องจากอาจเกิดอันตรายได้กับทั้งตนเอง และผู้อื่น โดยเฉพาะอันตรายที่อาจเกิดได้กับบุคคลอื่นที่ไม่ได้อยากมีส่วนร่วมกับการเล่นกีฬาแบบนี้ นักกีฬาแข่งรถหลายคนยังแยกแยะไม่ออกว่ากีฬารถแข่งนั้นเป็นกีฬาที่ต้องเล่นในพื้นที่ปิด ที่ป้องกันอันตรายจากอุบัติเหตุที่อาจเกิดจากการแข่งขันได้ แต่ในทางตรงข้ามกลับใช้ทักษะการขับรถที่ควรมีเฉพาะในสนามแข่งโชว์ฟอร์มให้แฟนกีฬาและนักพนันตัวยงได้ชื่นชม ต้องไม่มาใช้กับถนนจริง เพียงเพื่อโชว์ศักยภาพในการขับขี่ของตนเองเท่านั้น

อันตรายที่อาจเกิดได้หากแข่งรถบนถนนจริง

การแต่งรถให้มีสมรรถนะของรถสูงขึ้นเพื่อให้สามารถขับขี่ได้เร็วและแรงขึ้น เป็นเรื่องที่ทำได้แต่ในการขับขี่นั้นควรเน้นไปที่สนามแข่งขันไม่ใช่ถนนจริง เนื่องจากสภาพแวดล้อมต่าง ๆ ไม่เหมือนกัน อันตรายที่เกิดขึ้นนั้นล้วนเกิดจากความประมาทในการขับขี่ทั้งสิ้น ไม่เกี่ยวกับว่าคุณจะเป็นนักขับมืออาชีพหรือมือสมัครเล่น แต่หากคุณขับรถในแบบเดียวกันทั้งในสนามแข่งขันและถนนจริงย่อมเกิดสิ่งไม่คาดคิดขึ้นได้ สิ่งที่ควรนำมาพิจารณาก่อนการขับขี่ด้วยทักษะนักแข่งคือ

1.เสียงเครื่องยนต์รบกวนเพื่อนร่วมทาง ในสนามแข่งขันปัญหานี้ไม่ใช่เรื่องใหญ่ เพราะทุกคนเข้าใจและยอมรับในเรื่องนี้อยู่แล้ว แต่ไม่ใช่กับการใช้ถนนจริง มลพิษทางเสียงเป็นสิ่งหนึ่งที่สังคมรังเกียจ

2.สภาพถนน ในสนามแข่งขันมีการออกแบบพื้นผิวถนนมาเพื่อรองรับการขับขี่ด้วยความเร็วสูงโดยเฉพาะ มีการทำความสะอาดเป็นอย่างดี แต่ถนนจริงไม่ใช่! ถนนจริงมีทั้งหิน ดิน ทราย คราบน้ำมัน ทางโค้งที่ไม่ออกแบบมาเพื่อรองรับการขับขี่ด้วยความเร็วสูง โอกาสในการเกิดอุบัติเหตุมีสูงกว่าในสนามแข่งหลายเท่านัก คุ้มค่าไหมกับการสูญเสีย ถามใจคุณดูเอง

3.ไม่มีประกันที่คุ้มค่า ในการขับขี่บนถนนจริงหากเกิดอุบัติเหตุเพราะขับแบบนักแข่งรถ นับว่าเป็นการขับขี่โดยประมาท คิดทางใดก็มีแต่เสีย ไม่ว่าจะเป็นตัวคุณเองหรือเพื่อนร่วมทาง 9

4.เพื่อนร่วมถนนไม่ใช่นักแข่ง อย่าลืมว่าเมื่อขับรถบนถนนจริง เพื่อนร่วมถนนไม่ใช่นักแข่งเช่นคุณ การรู้จังหวะในการขับขี่ขณะตาม ขณะแซง ขณะเข้าโค้ง ย่อมไม่เหมือนนักแข่งรถด้วยกัน คุณคาดการณ์ไม่ได้เลย อุบัติเหตุจึงมีโอกาสเกิดได้สูงขึ้น

การควบคุมด้านความปลอดภัยในการขับขี่

เพราะยังมีนักแข่งรถที่แยกแยะไม่ได้ระหว่างสนามแข่งกับสนามจริง รวมถึงมือใหม่ใจคะนอง วัยรุ่นอีกไม่น้อยที่ดูกีฬาแข่งรถ ดูภาพยนตร์ ดูละคร หรือดูข่าว แล้วสำคัญผิดคิดว่าเป็นเรื่องท้าทาย ออกมาลองทักษะการขับรถกันบนถนนจริง หรือรวมกลุ่มปิดถนนกันแข่งรถ ล้วนแล้วแต่เป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม จึงจำเป็นต้องมีการควบคุมในเรื่องความปลอดภัยโดยกำหนดบทลงโทษที่สูงขึ้น หากเป็นเยาวชนก็มีการเพิ่มโทษไปถึงผู้ปกครอง รวมถึงการทำประกันอุบัติเหตุซึ่งไม่ครอบคลุมหากมีพฤติกรรมขับขี่เช่นนี้ ซึ่งแม้ว่าจะไม่ได้ช่วยลดความคึกคะนองได้มากเท่าที่ต้องการ แต่ก็ดีกว่าไม่มีมาตรการใด ๆ ออกมารองรับเลย นักแข่งรถมืออาชีพจึงควรคำนึงถึงจุดนี้ให้ดี ยึดถือเป็นจรรยาบรรณนักแข่งไปเลยว่าบนถนนจริง คุณเองก็อยู่ภายใต้กฎหมายจราจรนะ