เรื่องที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อนเกี่ยวกับ รัฐภาคย์ วิไลโรจน์

หากเอ่ยถึงนักแข่งรถที่มีความโดดเด่นและมีหลายเสียงชื่นชม หนึ่งในนั้นจะต้องมีชื่อของรัฐภาคย์ วิไลโรจน์ อย่างแน่นอน แม้ในปัจจุบัน ชื่อเสียงของรัฐภาคย์ วิไลโรจน์อาจจะไม่ได้กระหึ่มมากเท่ากับยุคก่อน ๆ เพราะว่ามีนักแข่งรถรุ่นใหม่เกิดขึ้นมากมายหลายต่อหลายคน วันนี้เราเลยขอเอาใจคนที่ยังชื่นชอบและนึกถึงหนุ่มรัฐภาคย์ อยู่ มีเรื่องอะไรของเขาที่คุณยังไม่รู้บ้าง อยากรู้ต้องมาดูกัน

1.หนุ่มรัฐภาคย์ขับมอเตอร์ไซค์เป็นตั้งแต่อายุ 5 ขวบ

เห็นเป็นหนุ่มนักซิ่งแบบนี้แล้วเชื่อหรือไม่ว่าเขานั้นสามารถขับมอเตอร์ไซค์สำหรับเด็กได้ตั้งแต่อายุ 5 ขวบเลยทีเดียว โดยสาเหตุที่ทำให้หนุ่มฟิล์มนั้นสนใจในการแข่งรถมากกว่ากีฬาที่เด็กอื่น ๆ สนใจกันก็เพราะว่าการรักความเร็วนั้นอยู่ในสายเลือด

2.สายเลือดรักความเร็วทั้งครอบครัว

คุณพ่อของเขาก็เป็นอดีตนักแข่งรถจักรยานยนต์กีฬาทางเรียบเช่นกัน โดยพ่อของหนุ่มรัฐภาคย์ วิไลโรจน์ ชื่อว่า คริสมาส วิไลโรจน์ นอกจากสองหนุ่มพ่อลูกจะชอบท้าความเร็วแล้ว น้องชายของเขาอย่างหนุ่ม รัฐพงษ์ วิไลโรจน์ ก็เป็นอีกหนึ่งนักแข่งรถเช่นกัน จะเห็นได้ชัดเลยว่าตระกูลนี้รักความเร็วและการซิ่งเป็นชีวิตจิตใจ

3.ชื่อในการแข่งขันคือ “ฟีม”

แม้รัฐพงษ์ วิไลโรจน์ จะมีชื่อเล่นจริง ๆ ว่าฟิล์ม แต่ทว่าชื่อในการแข่งขันของเขานั้นกลับเป็น “ฟีม” เพราะบริษัทต้นสังกัดนั่นก็คือ เอ.พี.ฮอนด้าคิดว่าหากชื่อฟิล์ม อาจจะทำให้คนสับสนกับฟิล์ม รัฐภูมิ ดารานักแสดงชื่อดังในยุคนั้นเช่นกัน ด้วยเหตุนี้เขาเลยเปลี่ยนชื่อเสียงเรียงนามของตัวเองเป็นฟีม

4.อดีตนักบิดเวิล์ดกรังด์ปรีซ์รุ่นโมโตทูคนแรกของไทย

สิ่งแรกที่หลายคนอาจจะยังไม่เคยรู้มาก่อนก็คือ หนุ่มคนนี้เป็นหนุ่มนักบิดรุ่นโมโตทูคนแรกของไทย นอกจากนี้เขายังเป็นโค้ชทีมแข่ง เอ.พี.ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ อีกด้วย ความรักการบิดคงอยู่ในสายเลือดของเขา ทำให้เขายังคงเดินอยู่บนเส้นทางสายนักบิด ไม่ว่าจะเป็นบทบาทใดก็ทำให้ดีแทบทั้งสิ้น

สิ่งที่คนธรรมดาอย่างเราควรนำมาใช้เวลาอ่านประวัติคนที่มีความสามารถในด้านใดด้านหนึ่งก็คือ การมีความพยายามให้เทียบเท่ากับเขาคนนั้นบ้าง อย่างเช่นหนุ่มฟีมหรือฟิล์มนั้น จริงอยู่แม้จะมีพื้นฐานการที่พ่อของตัวเองเป็นนักแข่งรถก็ตามที แต่หากว่าเขาไม่เอาใจใส่ในการแข่งขัน ไม่ขยันฝึกซ้อมก็คงไม่มีวันนี้ได้ และที่สำคัญมากไปกว่านั้นก็คือ การมีความสามารถไม่ว่าจะเป็นรูปแบบใด ล้วนแล้วแต่มีประโยชน์ทั้งสิ้น เราอาจไม่ต้องเก่งในแบบที่เหมือนใคร ขอแค่เรามีความเก่งในแบบของตัวเอง อาจไม่ต้องเรียนเก่ง ขอแค่มีความสามารถเฉพาะตัว ชีวิตก็ประสบความสำเร็จได้เช่นกัน